รู้หรือไม่ กินปลาลดความเสี่ยงหูตึงได้นะ
ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่มีประโยชน์อุดมอยู่เยอะมากอีกทั้งยังเป็นเนื้อสัตว์ประเภทที่ก่อให้เกิดโทษกับร่างกายน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ที่อาจมีสารปนเปื้อนมาด้วยอย่างเช่นสารเร่งโตหรือสารเร่งเนื้อแดงอีกทั้งปลายังเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายผ็สูงอายุหรือเด็กที่มีระบบย่อยอาหารไม่ดีการทานเนื้อปลาจึงจะดีที่สุดอีกทั้งการกินปลาลดความเสี่ยงหูตึงได้อีกด้วยนะ
กินปลาลดความเสี่ยงหูตึง จริงหรือ?
ข้อมูลเรื่องการกินปลาลดความเสี่ยงหูตึงนั้นเป็นผลมาจากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐอเมริกาซึ่งผลการวิจัยนี้ได้ถูกเผยแพร่ใน American Journal of Clinical Nutrition กล่าวว่า การกินปลาในประมาณ 2 มื้อต่อสัปดาห์จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการหูตึงในผู้หญิงอายุมากได้มากกว่า 42% สาเหตุเป็นเพราะโอเมก้า 3 ในปลาช่วยทำให้เลือดไปไหลเวียนบริเวณประสาทหูได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าอาการหูตึงจะพบในหมู่ผู้เริ่มเข้าวัยสูงอายุเป็นปกติอยู่แล้ว แต่การทานปลาเพื่อรับโอเมก้า 3 ก็ช่วยให้ลดความเสี่ยงนี้ได้หรือช่วยชะลออาการหูตึงออกไปได้อีกหลายปี
โอเมก้า 3 สำคัญอย่างไร?
โอเมก้า 3 คือกรดไขมันดีที่ร่างกายของมนุษย์เราไม่สามารถส้รางเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับผ่านการกินอาหาร ซึ่งโอเมก้า 3 นั้นจะพบได้มากในหมู่ปลาทะเลและปลาน้ำจืดบางชนิดของไทยก็ให้โอเมก้า 3 ได้สูงพอๆกัน
ประโยชน์ของโอเมก้า 3 นั้นคือมีส่วนช่วยในระบบหลอดเลือดและหัวใจอย่างมาก ช่วยลดความดัน ลดคอเลสเตอรอล ช่วยลดความเสี่ยงการเดิโรคหัวใจ ในระบบไหลเวียนเลือดก็ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ลดอาการหนืดของเกร็ดเลือด ลดความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดตามกระแสเลือด อีกทั้งยังช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ เล็บ และผมให้แข็งแรงอีกด้วย
นอกจากนี้โอเมก้า 3 ยังจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็กและสตรีมีครรภ์อีกด้วย โอเมก้า 3 จะเข้าไปช่วยเรื่องการพัฒนาของระบบประสาทและสมอง ช่วยลดอาการสมธิสั้นของเด็ก เพิ่มความจำ และที่สำคัญคือช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อและกระดูดให้แข็งแรงอีกด้วย
โอเมก้า 3 ได้จากไหม?
อย่างที่เรารู้กันคือโอเมก้า 3 นั้นมีมากในปลาทะเลน้ำลึก ได้แก่ ปลาแซลม่อน ปลาทูน่า ปลาแมคคาเรล ปลาซาร์ดีน หรือปลาซาบะ ซึ่งล้วนเป็นปลาที่ได้จากต่างประเทศทั้งนั้น อีกทั้งยังมีราคาสูง การจะรับประทานปลาเหล่านี้ในปริมาณ 2 มื้อต่อสัปดาห์ก็อาจจะมากเกินไปสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ แต่ไม่ต้องกังวลเลยเพราะโอเมก้า 3 ก็ถูกพบอยู่ในปลาน้ำจืดของไทยในปริมาณที่สูงพอๆ กับการกินปลาทะเลน้ำลึกเลย นั่นคือ ปลาสวาย ปลาดุก ปลาช่อน และปลานิล รู้อย่างนี้แล้วการกินปลาลดความเสี่ยงหูตึงก็ไม่ยากอีกต่อไป
แฟชั่น
Cyberbullying การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ และทักษะที่ควรรับมือ
เปิด 5 เมืองน่าเรียนต่อในออสเตรเลีย
อาการ Long Covid หลังหายป่วยจากโควิด และผลกระทบที่ตามมา