ทริคต่างๆเกี่ยวกับ Safe Mode ระบบปฏิบัติการ Windows ที่คุณควรรู้
ระบบปฏิบัติการบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันก็คือระบบปฏิบัติการ Windows เนื่องจากมันสามารถใช้ได้อย่างง่ายดาย มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีมากมาย ดังนั้นเราจึงควรที่จะเรียนรู้เกี่ยวทริคต่างๆ ในการใช้งานเพื่อให้สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากที่เราใช้งานไปสักพักมันก็มักจะมีปัญหาที่ทำให้เราต้องหงุดหงิดไม่ว่าจะเป็นอาการค้าง ไม่สามารถบูต Windows สำเร็จ หรือไม่สามารถใช้งานได้ บางครั้งระบบก็จะพาเราเข้าสู่ Safe Mode อัตโนมัติซึ่งจะสามารถสังเกตเห็นได้ชัดจากหน้าจอสีดำและมีข้อความบริเวณมุมของหน้าจอขึ้นว่า Safe Mode โหมดการทำงานดังกล่าวเป็นโหมดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขปัญหาเวลาที่คอมพิวเตอร์ได้รับผลกระทบต่อการทำงานอย่างรุนแรง ผู้ใช้งานจะสามารถตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์จนทำให้มันไม่สามารถทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น และเมื่อเราแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วระบบก็จะพาเราเข้าสู่การใช้งาน Windows ตามปกติ เทคโนโลยีของหมดดังกล่าวคือการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการโดยให้เฉพาะไฟล์ที่สำคัญกับระบบเท่านั้นสามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ที่ไม่จำเป็นจะไม่สามารถใช้งานได้ บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 นั้นจะมีหมดดังกล่าวให้เราสามารถใช้ได้ 4 รูปแบบด้วยการประกอบไปด้วย
- Minimal เป็นการเข้าสู่ Safe Mode ตามปกติ การเลือกใช้เฉพาะโปรแกรมและได้เพิ่มที่จำเป็น เมาส์และคีย์บอร์ดยังคงสามารถใช้งานได้
- Alternate Shell เป็นการเข้าสู่ Safe Mode ที่ปิดการทำงานของ GUI ทำให้ไม่สามารถใช้งานคีย์บอร์ดและเมาส์ได้ ต้องสั่งงานผ่าน CMD Command เท่านั้น
- Active Directory Repair คอมพิวเตอร์จะอนุญาตให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลจำเพาะของฮาร์ดแวร์ในคอมพิวเตอร์ได้
- Network เป็นการเข้าสู่ Safe Mode ที่สามารถใช้งานโปรแกรมและไดรเวอร์ที่ต้องใช้ระบบอินเทอร์เน็ตได้
ช่วงเวลาที่เราควรใช้ Safe Mode มากที่สุดก็คือเวลาที่คอมพิวเตอร์เกิดปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ มีอาการกระตุกค้าง ประโยชน์ของมันคือสามารถย้อนค่าระบบที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ของเราย้อนกลับระบบไปช่วงที่ยังคงสามารถทำงานได้อย่างปกติ สแกนหาไวรัสหรือมัลแวร์บางตัวที่ตรวจจับได้ยากและสามารถลบออกได้ ไฟล์ที่เป็นต้นตอของไวรัสไม่สามารถลบออกจากคอมพิวเตอร์ได้จะสามารถลบออกได้ในโหมดนี้ ช่วยให้สามารถกำจัดต้นตอของปัญหาได้อย่างสิ้นซาก และสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง วิธีการเข้าสู่โหมดนี้สามารถทำได้ด้วยการคลิกไปที่รูปแว่นขยายบนแถบเครื่องมือด้านล่างของหน้าจอ พิมพ์คำว่า System Configuration คลิกที่แท็บ Boot ในหัวข้อ Boot Option เลือก Safe Mode เลือกรูปแบบโหมดที่ต้องการใช้งาน กดตกลง เพียงเท่านี้คอมพิวเตอร์ของเราก็จะพาเราเข้าสู่ Safe Mode อัตโนมัติ
แฟชั่น
เทคนิคการจับคู่โทนสียอดฮิต ให้การนำเสนองานดูน่าสนใจ
ประโยชน์ของการตั้งค่า ผู้ใช้งาน คอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง
4 ทริคต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่ควรรู้