กําลังเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่ คืออะไร
อีกหนึ่ง ปัญหาที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ มักต้องประสบพบเจอและถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสยองขวัญสำหรับใครหลายๆคนเลยทีเดียวกับ การเปิดคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานของคุณขึ้นมาแล้วพบหน้าจอที่แสดงข้อความว่า “กำลังเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่” เป็นระยะเวลานาน แต่ก็ไม่สามารถ Boot เข้าหน้า Windows ได้สักที โดยปัญหาดังกล่าวนั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นจะต้องหาวิธีการแก้ปัญหาเพื่อให้สามารถกลับไปใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อีกครั้งหนึ่ง อันนี้สำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ที่ยังคงสงสัย เกี่ยวกับปัญหา ข้อความ ที่ปรากฏบนหน้าจอว่า “กําลังเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่” และต้องแก้ปัญหาอย่างไร ในวันนี้เราได้รวบรวมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวปัญหาดังกล่าว รวมไปถึงแนวทางการแก้ไขต่างๆมาฝากกัน ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับใครหลายๆคนที่ต้องประสบพบเจอปัญหาเหล่านี้อยู่ ได้อย่างแน่นอน
สำหรับปัญหาเมื่อหน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏคำว่า “กําลังเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่” เป็นระยะเวลานานและไม่เกิดอะไรขึ้นในเวลาต่อมา เราอาจจะสรุปปัญหาเหล่านี้ได้ว่า อาการคอมพิวเตอร์ไม่บูทเข้าระบบปฏิบัติการ Windows นั้นเอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุรวมไปถึงเป็นผลพวงจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ของเจ้าของเครื่องนั่นเอง ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่พอสมควร เพราะอาจจะทำให้ มีโอกาสที่จะไม่สามารถกลับมาใช้งานระบบปฏิบัติการเดิมได้อีกครั้งหนึ่ง เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในส่วนของวิธีการแก้ปัญหานั้น นอกเหนือจากการรีเซ็ตวินโดว์ใหม่แล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นๆอีกหลากหลายรูปแบบ ในวันนี้เราได้รวบรวมวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ไม่บูทเข้าระบบมาฝากกัน โดยมีทั้งหมด 8 วิธีดังต่อไปนี้
- ปิดระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ด้วยการกดปุ่ม Power ค้างเอาไว้จนกว่าจะดับลง
- ใช้วิธีการ Startup Repair ด้วยการใส่แผ่นวินโดว์เข้าไปในเครื่อง ก่อนจะตั้งค่าการบูตระบบให้เป็น CD/DVD และสุดท้ายให้เลือกไปที่ตัวเลือก Startup Repair
- ทำการ Start Windows ใหม่อีกครั้ง ก่อนจะเลือกไปที่ Safe Mode และไปที่ Last Known Good Configuration เพลงย้อนระบบการทำงานให้กลับไปอยู่ในช่วงเวลาปกติ
- ใช้ระบบ Safe Mode โดยไปที่ System Restore และเลือกใช้ Advanced Boot เพื่อเป็นการยกเลิกการแก้ไขล่าสุดให้กับคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะเกิดปัญหาต่างๆขึ้น
- ลองสแกนไวรัสด้วยการบูตเข้าไปที่ Safe Mode เพื่อทำการสำรวจและตรวจเช็คภัยคุกคามต่างๆที่สร้างปัญหาให้กับคอมพิวเตอร์
- ทำการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ว่ายังสามารถทำงานได้เป็นปกติดีหรือไม่
- ทดสอบการทำงานของแรมและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆด้วยการทดลองถอดและเสียบเข้าไปใหม่อีกครั้งหนึ่งก่อนเปิดเครื่อง
- ตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ ของคอมพิวเตอร์ ให้ดีครั้งว่ายังสามารถทำงานได้ปกติหรือไม่หรืออาจจะทดลองเปลี่ยนนำฮาร์ดดิสก์ตัวอื่นเข้ามาใส่แทนก่อนจะลองเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหากทั้ง 9 วิธีที่กล่าวมานี้สามารถใช้วิธีใดวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหาได้แล้วเมื่อระบบบูตเข้าสู่หน้าจอแล้วผู้ใช้งานควรที่จะทำการตรวจสอบและสแกนหาสิ่งผิดปกติอีกครั้งหนึ่ง รวมไปถึงทำการ Backup ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ภายในเครื่องเพื่อป้องกัน การเกิดปัญหาดังกล่าวซ้ำขึ้นในภายหลังและอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการที่กล่าวมาจนท้ายที่สุดอาจจะต้องทำการ Reset Windows ใหม่นั่นเอง
แฟชั่น
Sony PlayStation 5 (PS5)
Sumsung Galaxy A53 5G
AirPods 3